เคล็ดลับป้องกันลูกแพ้น้ำยาซักผ้า

บทความจาก https://www.cleanipedia.com/th/ซัก-ผ้า/ลูกแพ้-น้ำยาซักผ้า.html

การซักผ้า

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับผื่นแพ้ในเด็กเล็กว่า เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น เหงื่อจากอากาศร้อน หรือเกิดจากอากาศแห้งๆ  สารระคายเคืองจากสบู่ แชมพู แพ้ผงซักฟอก แพ้น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม รวมไปถึงแพ้อาหารประเภท นมวัว ไข่ อาหารทะเล และไรฝุ่นในอากาศ เหล่านี้ทำให้ลูกน้อยมีผื่นคัน ตุ่มแดงหรือตุ่มน้ำใส ซึ่งพบมากบริเวณใบหน้าและด้านนอกของแขนขา

ขอเพียงคุณพ่อคุณแม่พยายามสังเกตหาสาเหตุและเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เป็นน้ำยาซักผ้าออแกนิคหรือน้ำยาซักผ้าธรรมชาติ พร้อมกับทำตามขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนที่เรารวบรวมมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก ไปดูกันเลยรู้หรือไม่! ในเครื่องซักผ้าอาจมีน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มของผู้ใหญ่ตกค้างอยู่ เมื่อนำเสื้อผ้าเด็กอ่อนไปซัก สารเคมีที่ตกค้างอยู่ในเครื่องก็อาจเจือปนอยู่ในเสื้อผ้าลูกได้ ทางที่ดีที่สุดคือซักมือ

สังเกตอย่างไรว่าลูกแพ้น้ำยาซักผ้า

อันดับแรก คุณพ่อคุณแม่ต้องดูว่าลูกเป็นผื่นกระจายตามตัว หรือเป็นผื่นตามจุดต่างๆ หรือมีแค่จุดเดียว เทคนิคการสังเกตง่ายๆ ถ้าลูกน้อยเกิดอาการผื่นแพ้ที่บริเวณใดของร่างกาย แปลว่าบริเวณนั้นได้มีการสัมผัสกับสิ่งที่ก่อให้เกิดการแพ้ ถ้าเป็นผื่นบริเวณที่สัมผัสถูกผ้า ก็อาจจะแพ้น้ำยาปรับผ้านุ่มหรือน้ำยาซักผ้า ถ้าเป็นทั่วทั้งตัวก็อาจแพ้โลชั่นทาผิว หรือถ้าหนังศีรษะของลูกแห้งและผมแห้งกร้าน อาจแพ้ยาสระผม 

เอาอย่างนี้ ลองทดสอบด้วยการซักผ้าด้วยน้ำเปล่า โดยไม่ใช้น้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ถ้าลูกแพ้น้ำยาซักผ้าจริง ภายใน 3 วัน การใส่เสื้อผ้าที่ไม่ได้ซักด้วยสารเคมี ก็จะทำให้ผื่นลดลงและมีอาการดีขึ้น นั่นแสดงว่าต้องค้นหาน้ำยาซักผ้าธรรมชาติหรือออแกนิคมาใช้แทน

ค้นหาน้ำยาซักผ้าเด็ก เกร็ดเล็กๆ ที่ไม่ควรละเลย

ส่วนใหญ่น้ำยาซักผ้ามักมีส่วนผสมของสารฟอกขาวและสารเคมีเข้มข้นหลายชนิดที่คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ตามที่ระบุไว้ในบรรจุภัณฑ์ เมื่อนำน้ำยาซักผ้าปกติมาซักเสื้อผ้าเด็กอ่อนก็จะเกิดการแพ้น้ำยาซักผ้า มีการระคายเคืองและมีผดผื่นคันขึ้นตามตัว เนื่องจากผิวเด็กเล็กมีความละเอียดอ่อนและบอบบางมาก 

3 ขั้นตอนการเลือกซื้อน้ำยาซักผ้าเด็ก 

น้ำยาซักผ้าเด็กแบบธรรมชาติอาจมีราคาค่อนข้างสูงแต่เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยก็คุ้มค่ามาก หามาใช้เถอะนะ 

• จะดีที่สุดถ้าเลือกใช้น้ำยาซักผ้าออแกนิค ที่ทำมาจากส่วนผสมธรรมชาติล้วน จึงปลอดภัยและมีความอ่อนโยนต่อผิวเด็กอ่อน 
• เลือกน้ำยาซักผ้าสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เน้นที่มีคำว่า “สำหรับเด็ก” ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กจะไม่มีส่วนผสมของสารที่เป็นอันตราย ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น
• ควรหายี่ห้อที่เป็นที่รู้จักและได้รับรองมาตรฐาน หากใช้น้ำยาซักผ้าที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจมีสารอันตรายเจือปนอยู่  

นอกเหนือจากการเลือกซื้อน้ำยาซักผ้าเด็ก สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือการซักเสื้อผ้าของเด็กอ่อน ซึ่งคุณควรทำทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้ในตะกร้านานๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค

ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในการซักเสื้อผ้าเบบี้หรือไม่ 

คุณอาจกังวลว่าถ้าลูกแพ้น้ำยาซักผ้า ลูกก็อาจแพ้น้ำยาปรับผ้านุ่มด้วย ความจริงคุณสามารถหาน้ำยาปรับผ้านุ่มของเด็ก  (ขอย้ำว่าที่มีระบุคำว่า สำหรับเด็ก) มาช่วยลดความกระด้างของเสื้อผ้าลงได้ แต่ต้องล้างน้ำยาปรับผ้านุ่มออกให้หมดจน อย่างน้อย 3 น้ำ

การปล่อยให้เด็กอ่อนสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความแข็งกระด้างนานๆ ก็จะทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างผิวหนังกับเสื้อผ้าแข็งๆ จนก่อให้เกิดการระคายเคืองและผื่นคันตามมา นอกจากจะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มแล้ว ยัง

สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกน้อยด้วยการทาครีมสำหรับเด็กอ่อนบำรุงผิวบอบบางที่ต้องสัมผัสกับความเปียกชื้นและอยู่ใต้ผ้าอ้อม (สำเร็จรูป) เช่น ผิวบริเวณก้นและต้นขา

ซักเครื่อง เรื่องไม่ง่าย

หากคุณมีเครื่องซักผ้าที่มีประสิทธิภาพสูง คุณควรเลือกน้ำยาซักผ้าธรรมชาติหรือน้ำยาซักผ้าออแกนิคที่ใช้สำหรับเด็ก ที่ผ่านการรับรองสำหรับการใช้งานดังกล่าว มองหาชื่อ “HE” ที่ด้านหน้าของผลิตภัณฑ์ซักผ้า ซึ่งแสดงว่าปลอดภัยที่จะใช้กับเครื่องซักผ้าประสิทธิภาพสูง 

น้ำยาซักผ้าข้างต้นจะไม่สร้างฟองสบู่ที่อาจสร้างความเสียหายต่อเครื่องซักผ้าประสิทธิภาพสูงของคุณ ฟองสบู่ที่ว่าเป็นสารเคมีที่หลงเหลืออยู่ในเนื้อผ้าและสามารถดูดซับรังสียูวีจากดวงอาทิตย์เพื่อให้เสื้อผ้ามีสีสดใส แต่ไม่เกี่ยวข้องกับความสะอาดหรือฆ่าเชื้อ

4 เคล็ดลับป้องกันลูกแพ้น้ำยาซักผ้า

ความเชื่อผิดๆ ที่ว่ากันว่าใช้น้ำเปล่าซักเสื้อผ้าเด็กอ่อนก็เพียงพอ อันนี้ไม่เป็นความจริง เพราะเสื้อผ้าที่ใช้อาจมีรอยเปื้อนจากการขับถ่าย คราบนมหรืออาหาร รวมทั้งคราบเหงื่อไคล คราบต่างๆ และความอับชื้นก็อาจนำพาเชื้อโรคมาได้

• แยกซักเสื้อผ้าลูกน้อยกับเสื้อผ้าผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ต้องมีสติมากๆ ในการจัดการเรื่องนี้ ชีวิตเร่งรีบและการอดนอนนานๆ จากการเลี้ยงดูเด็กทารกอาจทำให้คุณขาดสติได้
• แยกเสื้อผ้าที่เปื้อนออกมาจากผ้าปกติ ควรแยกซักต่างหากจากผ้าปกติ และควรทำความสะอาดผ้าเปื้อนเบื้องต้นด้วยน้ำสะอาดและซัก 1 รอบ เมื่อคุณแน่ใจว่าไม่มีร่องรอยตกค้างแล้วค่อยนำไปซักรวมกับผ้าอื่นๆ ของลูก
• ล้างผลิตภัณฑ์ซักผ้าออกให้หมดจด ควรล้างน้ำสะอาดอย่างน้อย 3 น้ำ กำจัดสิ่งตกค้างอยู่บนเสื้อผ้าของลูกที่อาจก่อให้เกิดการะคายเคืองกับผิว
• นอกจากการใช้ผงซักฟอกฆ่าเชื้อ การตากผ้าในที่ที่มีแสงแดดและมีลมถ่ายเทได้สะดวก ก็เปรียบเสมือนการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ทำให้ผ้าไม่เหม็นอับและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
• หลักง่ายๆ ในการเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กอ่อนก็คือ ไม่มีสารเพิ่มความสดใส ปราศจากน้ำหอมและสีย้อม หรือเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรอ่อนโยนอย่าง เซเว่นท์ เจนเนอเรชั่น ผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดน้ำ สูตรฟรี แอนด์ เคลียร์ ผลิตจากพืช 97% ปราศจากน้ำหอมสังเคราะห์และสีสังเคราะห์”

ลูกแพ้น้ำยาซักผ้าอาจเป็นเรื่องทรมานใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ แต่การเลือกเฟ้นหาน้ำยาซักผ้าธรรมชาติให้ลูกรัก จะทำให้คุณได้เห็นลูกนอนหลับสบาย ไม่ร้องไห้งอแง หรือเอามือถูตัวเพราะความคันอีกต่อไป 

เพียงแค่นี้ก็เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้ว